Aller au contenu principal

มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย


มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย


มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University in the City of New York) เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยในกลุ่มไอวีลีก ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของโลกแห่งหนึ่ง เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของนครนิวยอร์กและเก่าแก่ที่สุดอันดับที่ห้าของสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ที่นิวยอร์กซิตี ในรัฐนิวยอร์กในส่วนของชุมชนมอร์นิงไซด์บริเวณส่วนเหนือของเกาะแมนแฮตตัน ก่อตั้งก่อนการประกาศอิสรภาพของประเทศในปี พ.ศ. 2297 (ค.ศ. 1754) ในชื่อของ วิทยาลัยคิงส์ (King's College) โดยได้รับเงินสนับสนุนจากสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 2 แห่งอังกฤษ ภายหลังสหรัฐอเมริกาปฏิวัติ โคลัมเบียได้รับการสนับสนุนในฐานะเอกลักษณ์ทางปรัชญาของรัฐตั้งแต่ปี 2327 - 2330

ผู้ได้รับรางวัลโนเบล ทั้งที่เป็นศิษย์เก่าและคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยทั้งสิ้น 102 ท่าน ถือว่ามากที่สุดอันดับ 2 ของโลก ศิษย์เก่าที่เป็นประธานาธิบดีและนากยกรัฐมนตรีจากทั่วโลกจำนวน 29 ท่าน ศิษย์เก่าที่ดำรงตำแหน่ง CEO ของบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก (Fortune Global 500) จำนวน 45 ท่าน และมีผู้ชนะรางวัลออสการ์ 28 ท่าน นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังเป็นผู้มอบรางวัลพูลิตเซอร์ แก่ผู้ได้รับเกียรติสูงสุดระดับชาติในวงการสิ่งพิมพ์ การบรรลุความสำเร็จทางวรรณกรรม และการประพันธ์เพลงในสาขาวารสารศาสตร์ เมื่อกว่า 100 ปีมาแล้ว ซึ่งวิทยาลัยวิชาการหนังสือพิมพ์ของโคลัมเบียนับได้ว่าโดดเด่นมากที่สุดของโลกในปัจจุบัน

โคลัมเบียได้รับความนิยมจากผู้นำประเทศต่างๆ รวมทั้งผู้นำของสหรัฐอเมริกาอย่าง ทีโอดอร์ รูสเวลต์และแฟรงกลิน ดี. รูสเวลต์ ทั้งคู่ต่างก็จบการศึกษาจากวิทยาลัยกฎหมายของที่นี่ ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ เคยเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยก่อนจะไปดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี หรือแม้แต่บารัก โอบามาและ ไมก์ เกรเวิล ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปี 2008 ก็เป็นศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย รวมถึงวุฒิสมาชิก และสมาชิกสภาคองเกรสอีกจำนวนหนึ่ง

มหาวิทยาลัยโคลัมเบียเป็นมหาวิทยาลัยแรกที่เปิดให้บริการคลื่นวิทยุเอฟเอ็ม โดยดำเนินรายการด้านมานุษยวิทยาและการเมือง วัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการเรียนการสอนสำหรับนักศึกษาปริญญาโท ทั้งยังเป็นต้นกำเนิดของวิชาพันธุศาสตร์สมัยใหม่ นอกจากนี้ในงานวิจัยเพื่อปรับปรุงการระเบิดในระดับอะตอมที่วิทยาเขตมอนิ่งไซต์ ยังได้ค้นพบการแตกตัวของธาตุยูเรเนียมอีกด้วย สำหรับวรรณกรรมและศิลปศาสตร์ยุคหลังการล่าอาณานิคม ภายหลังศตวรรษที่ 20 ทั้งหมดได้รับการรวบรวมและสามารถพบเห็นได้ภายในมหาวิทยาลัยแห่งนี้

มหาวิทยาลัยโคลัมเบียดำเนินการ่วมกับวิทยาลัยบาร์นาร์ด (Barnard College) , วิทยาลัยครู (Teachers College) และโรงเรียนสอนศาสนา (Union Theological Seminary - UTS) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้ๆ กับวิทยาเขตมอร์นิ่งไซด์ นอกจากนี้ยังเปิดหลักสูตรปริญญาตรีโดยร่วมมือกับโรงเรียนสอนศาสนายิวแห่งอเมริกา (Jewish Theological Seminary of America) และโรงเรียนจูลเลียต (Juilliard School)

วิทยาเขต

วิทยาเขตมอร์นิ่งไซด์ (Morningside Heights)

หลักสูตรส่วนใหญ่ของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียเปิดการเรียนการสอนที่วิทยาเขตมอร์นิงไซด์แห่งนี้ ภายใต้แนวคิดในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ที่ว่าทุกสาขาวิชาควรเปิดสอนในวิทยาเขตเดียวกัน วิทยาเขตนี้ได้รับการออกโดยศิลปินผู้มีชื่อเสียง ชาร์ลส์ ฟอลเลน แมคคิม, มีด และ ไวท์ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของพวกเขา

วิทยาเขตนี้มีพื้นที่มากกว่า 6 บล็อกหรือประมาณ 32 เอเคอร์ (132,000 ตารางเมตร) ในย่านมอร์นิงไซด์ ตั้งอยู่ระหว่างฮาร์เล็มและอัปเปอร์เวสต์ไซต์บนเกาะแมนฮัตตันซึ่งเป็นที่ตั้งของวิทยาลัยเป็นจำนวนมาก มหาวิทยาลัยเป็นเจ้าของบ้านพักในย่านมอร์นิงไซด์กว่า 7,000 แห่งสำหรับเป็นบ้านพักของคณาจารย์ เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย และนักศึกษา ซึ่งประมาณ 20 หอพัก (ทั้งที่เป็นหอพักและดัดแปลง) ตั้งอยู่ภายในวิทยาเขต

ระบบห้องสมุดของมหาวิทยาลัยแห่งนี้มีหนังสือมากถึง 9 ล้านเล่ม ห้องสมุดศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมเอเวอรี่ (Avery Architectural and Fine Arts Library) เป็นห้องสมุดสถาปัตยกรรมที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา แต่ไม่ใช่ที่สุดในโลก ห้องสมุดดังกล่าวมีหนังสือรวมกว่า 4 แสนเล่ม ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นเป็นหนังสือนอกหลักสูตร และห้ามไม่สามารถยืมได้ จุดเด่นของห้องสมุดสถาปัตยกรรมแห่งนี้คือดัชนีวารสารสถาปัตยกรรมเอเวอรี่ (the Avery Index to Architectural Periodicals) ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลระดับสากลที่สำคัญที่สุดในการอ้างอิงวารสารสถาปัตยกรรมและเรื่องที่เกี่ยวข้องในงานวรรณกรรม ดัชนีวารสารนี้ครอบคลุมรายชื่อวารสารสถาปัตยกรรมตั้งแต่ทศวรรษที่ 194 เป็นต้นมา

อาคารจำนวนมากในวิทยาเขตนี้ได้รับการบันทึกเป็นอาคารที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ห้องสมุดโล เมมโมเรียล (Low Memorial Library) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางมหาวิทยาลัย ได้รับการบันทึกด้วยความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรม ฟิลอสโซฟี ฮอล (Philosophy Hall) ได้รับการบันทึกในฐานะที่เป็นต้นกำเนิดของวิทยุเอฟเอ็ม เช่นเดียวกับพูพิน ฮอล (Pupin Hall) และบริเวณภาควิชาฟิสิกส์และดาราศาสตร์ซึ่งได้รับการบันทึกเป็นจุดเด่นของประเทศ (National Historic Landmark) ซึ่งที่นี่เป็นที่ที่เอนรีโก แฟร์มี (Enrico Fermi) ค้นพบการแตกตัวของอะตอมธาตุยูเรเนียมหลังการค้นพบการแตกตัวในระดับอะตอมครั้งแรกในโลกที่ประเทศเดนมาร์กเพียงสิบวัน

วิทยาเขตอื่นๆ

  • สถาบันวิทยาศาสตร์ชีวภาพ (Health-related schools) ในศูนย์การแพทย์ (Medical Center) บนเนื้อที่ 20 เอเคอร์ติดกับวอชิงตันไฮต์ (Washington Heights)
  • เบเกอร์ฟีล (Baker Field) เนื้อที่ 26 เอเคอร์ ประกอบด้วยสนามกีฬาลอเรนซ์ (the Lawrence A. Wien Stadium)
  • เวสต์แบงก์ แม่น้ำฮัตสัน (the west bank of the Hudson River) พื้นที่ 157 เอเคอร์
  • หอสังเกตการณ์ทางธรณีวิทยา Lamont-Doherty 157 เอเคอร์ใน Palisades นิวยอร์ก
  • ห้องทดลองวิทยาศาสตร์เนวิส 60 เอเคอร์ในไอร์วิงตัน
  • Reid Hall ในปารีสซึ่งเรียนรู้ผ่านระบบดาวเทียม
  • อาร์เดนเฮาส์ในฮาร์ริแมน (The Arden House in Harriman) นิวยอร์ก สำหรับนักศึกษาบริหารธุรกิจโปรแกรมพิเศษ

โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย

โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยเกิดขึ้นจากความร่วมมือของสถาบันการแพทย์ (Medical Schools) มหาวิทยาลัยโคลัมเบียและมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ (Cornell university) เป็นโรงพยาบาลคุณภาพอันดับ 6 ของโลก และอันดับ 3 สำหรับโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย อ้างอิงจากสำนักข่าวในสหรัฐอเมริกาและผลการจัดอันดับโรงพยาบาลโลกปี 2550 สถาบันการแพทย์ มหาวิทยาลัยโคลัมเบียเป็นหน่วยงานพันธมิตรกับสถาบันจิตวิทยานิวยอร์ก (New York State Psychiatric Institute) นอกจากนั้นยังเป็นพันธมิตรกับโรงพยาบาล 19 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกาและอีก 4 แห่งในต่างประเทศ

ประวัติ

มหาวิทยาลัยโคลัมเบียเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในรัฐนิวยอร์ก ก่อตั้งในชื่อของวิทยาลัยคิงส์ (King's College) เมื่อพ.ศ. 2297 เก่าแก่เป็นอันดับ 6 ของสหรัฐอเมริกา (ตามวันที่ก่อตั้ง อันดับที่ 5 ตามวันที่ได้รับอนุญาต) ภายหลังการปฏิวัติสหรัฐอเมริกา วิทยาลัยคิงส์ได้เปลี่ยนชื่อเป็นวิทยาลัยโคลัมเบียก่อนจะเป็นมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในพ.ศ.ปี 2327 และ 2439 ตามลำดับ โคลัมเบียเติบโตขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งปัจจุบัน ซึ่งประกอบไปด้วยสถาบันมากถึง 20 สถาบัน

วิทยาลัยคิงส์ (King's College) : 2297-2319

การพิจารณาจัดตั้งมหาวิทยาลัยในนิวยอร์กเริ่มขึ้นในราวปี 2257 แต่มาเริ่มเป็นรูปเป็นร่างในช่วงศตวรรษที่ 176 ในยุคที่นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเยลและสมาชิกของกลุ่มศาสนาในนิวยอร์ก (ขณะนั้นคือ Church of England ปัจจุบันคือ Episcopal) เริ่มตื่นตัวเมื่อทราบข่าวการก่อตั้งวิทยาลัยนิวเจอร์ซี (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน) ทั้งสองกลุ่มเห็นว่าวิทยาลัยนิวเจอร์ซีก่อตั้งโดยกลุ่มศาสนา new-light Presbyterians ซึ่งมีนิกาย the evangelical Great Awakening สนับสนุน ทั้งยังตั้งอยู่ในท้องที่ ตรงข้ามแม่น้ำฮัตสัน ด้วยเกรงว่านิวยอร์กจะเป็นเมืองด้อยพัฒนาทั้งทานด้านศิลปะและวิทยาการ พวกเขาจึงร่วมกันก่อตั้งสถาบันริมแม่น้ำของพวกเขาในชื่อวิทยาลัยคิงส์ (King's College) มีนายซามูเอล จอห์นสัน (Samuel Johnson) ดำรงตำแหน่งอธิการบดีคนแรก เริ่มเปิดการเรียนการสอนในวันที่ 17 กรกฎาคม 2297 ในโบสถ์ซึ่งมีนายซามูเอลดูแลเพียงคนเดียวเท่านั้น จากนั้นไม่นาน วันที่ 31 ตุลาคมปีเดียวกัน สมเด็จพระเจ้าจอร์ชที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรได้พระราชทานงบสนับสนุนให้แก่วิทยาลัยคิงส์ ต่อมาในปี 2303 วิทยาลัยคิงส์ย้ายไปตั้งในพื้นที่ของตนเองในปาร์คเพลส (Park Place) ใกล้กับศาลากลาง และในปี 2310 วิทยาลัยได้ก่อตั้งสถาบันแพทย์ขึ้นเป็นแห่งแรกโดยเปิดสอนในระดับบัณฑิตศึกษา

ข้อมูลมหาวิทยาลัย

การเข้าศึกษา

ในปี 2554 วิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia College) มีอัตราการรับนักศึกษาเข้าศึกษาต่อทั้งหมด 6.9% จากจำนวนผู้สมัครทั้งหมด กล่าวได้ว่าเข้ายากที่สุดอันดับ 2 ของสหรัฐอเมริกา รองเพียงมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่อัตาราการรับ 6.2% โดยถ้าไม่ดูจำนวนนักศึกษาที่สมัครแบบEarly Decision อัตราการรับนักศึกษาจะตํ่าลงถึง 5.7% (อัตราการรับตํ่าที่สุดในสหรัฐอเมริกาและเท่ากับมหาวิทยาลัยเยลในปีนั้น)

เงินทุนช่วยเหลือ

โคลัมเบียเป็นวิทยาลัยแห่งความหลากหลาย ด้วยจำนวนนักเรียนผิวสีมากถึง 49% มากกว่าครึ่งของนักศึกษาระดับปริญญาตรีได้รับเงินทุนช่วยเหลือจากมหาวิทยาลัย (ได้รับในปี 2554) โดยปกตินักศึกษาจะได้รับเงินทุนช่วยเหลือประมาณ $27,000 ขึ้นไปต่อคน และเงินช่วยเหลืออีกส่วนหนึ่งตั้งแต่ $20,000 ขึ้นไป

วิทยาลัย

ระดับปริญญาบัณฑิต

  • วิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia College - CC)
  • วิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ (the Fu Foundation School of Engineering and Applied Science - SEAS)
  • วิทยาลัยศึกษาทั่วไป (the School of General Studies - GS) สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อหลังจากหยุดพักการเรียนไป 1-2 ปี
  • วิทยาลัยบาร์นาร์ด (Barnard College) ซึ่งเป็นวิทยาลัยสำหรับผู้หญิง

ระดับบัณฑิตศึกษา

  • วิทยาลัยกฎหมาย (Columbia Law School) วิทยาลัยกฎหมายชื่อดังของโลก
  • วิทยาลัยธุรกิจ (Columbia Business School - CBS) วิทยาลัยธุรกิจชื่อดังของโลก
  • วิทยาลัยการต่างประเทศและการสาธารณะ (School of International and Public Affairs - SIPA) วิทยาลัยบริหารภาครัฐและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศชื่อดังของโลก
  • วิทยาลัยวารสารศาสตร์ (the Graduate School of Journalism - J-School or CJS) โรงเรียนด้านสื่อสารมวลชนที่มีชื่อเสียงของโลก
  • วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ (Columbia's medical school)
  • วิทยาลัยพยาบาลศาสตร์ (Columbia University School of Nursing)
  • วิทยาลัยสาธารณสุขเมล์แมน (Mailman School of Public Health)
  • วิทยาลัยทันตแพทย์ศาสตร์ (Columbia College of Dental Medicine)
  • วิทยาลัยสถาปัตยกรรมศาสตร์ (the Graduate School of Architecture, Planning and Preservation - GSAPP)
  • วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ (the Graduate School of Arts and Sciences - GSAS)
  • วิทยาลัยศิลปศาสตร์ (the Columbia University School of the Arts - SoA)
  • วิทยาลัยสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ (Columbia University School of Social Work)
  • วิทยาลัยครู (Teachers College, Columbia University)
  • วิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ (the Fu Foundation School of Engineering and Applied Science - SEAS)
  • วิทยาลัยศึกษาต่อ (Columbia University's School of Continuing Education) สำหรับบุคคลภายนอก ตั้งแต่หลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต, หลักสูตรประกาศนียบัตร, หลักสูตรภาษา, หลักสูตรศึกษาต่อต่างประเทศ, หลักสูตรภาคฤดูร้อน, และหลักสูตรมัธยมปลาย

อันดับโลก

ในปี 2550 ระดับปริญญาบัณฑิต

  • อันดับ 9 ร่วมของโลก (ร่วมกับมหาวิทยาลัยชิคาโก้) โดย U.S. News and World Report (USNWR)
  • อันดับ 7 ของโลก และอันดับ 6 ของอเมริกา โดยมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Jiao Tong University)
  • อันดับ 11 ของโลก และอันดับ 7 ของทวีปอเมริกาเหนือ โดย Times Higher Education (THES)
  • อันดับ 10 ของโลก โดย Newsweek
  • อันดับ 1 ของโลก โดย The Center for Measuring University Performance
  • อันดับ 8 ของอเมริกา โดย the National Research Council

นอกจากนี้มหาวิทยาลัยโคลัมเบียยังร่วมมือกับเครือข่ายวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย (University and College Accountability Network - U-CAN) ของสมาคมวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งชาติ (the National Association of Independent Colleges and Universities - NAICU) อีกด้วย

สำหรับวิทยาลัยในระดับบัณฑิตศึกษาของโคลัมเบีย จัดได้ว่าอยู่ในกลุ่มที่ดีที่สุดของสหรัฐอเมริกา ด้วยผลการจัดอันดับที่เกือบทั้งหมดอยู่ในกลุ่ม Top10 ของประเทศ

  • อันดับ 1 วิทยาลัยวารสารศาสตร์ (ที่มาของรางวัลพูลิตเซอร์) โดย U.S. News and World Report (USNWR)
  • อันดับ 3 วิทยาลัยครู โดย U.S. News and World Report 2010
  • อันดับ 2 วิทยาลัยการต่างประเทศและการสาธารณะ (สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) และอันดับ 3 (สาขานโยบาย)
  • อันดับ 3 วิทยาลัยสังคมสงเคราะห์ โดย U.S. News and World Report
  • อันดับ 3 วิทยาลัยสถาปัตยกรรมศาสตร์ โดยนิตยสารด้านสถาปัตยกรรมฉบับพฤศจิกายน 2550
  • อันดับ 5 วิทยาลัยกฎหมาย
  • อันดับ 6 วิทยาลัยสาธารณสุขเมล์แมน
  • อันดับ 9 วิทยาลัยธุรกิจ (อันดับ 2 โดย The Financial Times และอันดับ 6 โดยนิตยสาร Fortune)
  • อันดับ 10 วิทยาลัยแพทย์

ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง

ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง

ปัจจุบันมหาวิทยาลัยโคลัมเบียมีศิษย์เก่าที่เป็นประธานาธิบดีและนากยกรัฐมนตรีจากทั่วโลกจำนวน 29 ท่าน ศิษย์เก่าที่ได้รับรางวัลโนเบลจำนวน 43 ท่าน(ถ้ารวมอาจารย์ที่ได้รับรางวัลโนเบลด้วยจำนวน 102 ท่าน ซึ่งเป็นมหาลัยที่มีจำนวนศิษย์เก่าและอาจารย์ที่ได้รับรางวัลโนเบลมากที่สุดอันดับ2 ของโลก รองจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่มี 151 ท่าน) ศิษย์เก่าที่ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ จำนวน 126 ท่าน และศิษย์เก่าที่ดำรงตำแหน่ง CEO ของบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก(Fortune 500 companies)จำนวน 45 ท่าน

  • ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ ประธานาธิบดีคนที่ 34 ของสหรัฐอเมริกา และเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สอง
  • แฟรงกลิน รูสเวลต์ ประธานาธิบดีคนที่ 32 ของสหรัฐอเมริกา และเป็นประธานาธิบดีอสหรัฐเมริกาที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุด(4สมัย) แนวคิดของเขายังก่อให้เกิดองค์กรระหว่างประเทศ คือ สหประชาชาติ
  • ธีโอดอร์ รูสเวลต์ ประธานาธิบดีคนที่ 26 ของสหรัฐอเมริกา และได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ
  • บารัก โอบามา ประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐอเมริกา
  • วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักธุรกิจและซีอีโอ เป็นบุคคลที่รวยที่สุดเป็นอันดับสามในปี 2554 และบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก
  • ซามูเอล ร็อบสัน วอลตัน ทายาทผู้ก่อตั้งห้าง Walmart
  • เจมส์ กอร์แมน CEO ของบริษัทมอร์แกน สแตนลีย์ ที่ให้บริการทางการเงินระดับโลก
  • บิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีของนครนิวยอร์กสมัยปัจจุบัน
  • อีริค การ์เซ็ตติ นายกเทศมนตรีของนครลอสแอนเจลิสสมัยปัจจุบัน
  • เจมส์ แฟรนโก นักแสดงชาวอเมริกัน ผู้กำกับ นักเขียนบทภาพยนตร์ ผู้สร้างภาพยนตร์ และศิลปิน
  • โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ นักแสดงชาวอเมริกัน ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ และนักเขียน
  • แมกกี จิลเลนฮอล นักแสดงชาวอเมริกัน
  • เจค จิลเลินฮาล นักแสดงชาวอเมริกัน
  • จูเลีย สไตลส์ นักแสดงชาวอเมริกัน

ศิษย์เก่าชาวไทยที่มีชื่อเสียง

  • ดร. เสนาะ อูนากูล อดีตเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย รองนายกรัฐมนตรี จบปริญญาเอกเศรษฐศาสตร์
  • ศ.พิเศษ ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ กรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • ดร.ปิยะบุตร ชลวิจารณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารสหธนาคาร
  • ศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้รับเชิญเป็นที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง อาจารย์สุรชาติจบปริญญาเอกสาขารัฐศาสตร์
  • นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จบ Master of International Affairs ที่ School of International and Public Affairs (SIPA)
  • สาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม ผู้บริหารระดับกลางของแบงค์ชาติ จบปริญญาโทสาขาการเงิน เคยทำงานที่ Bank of America โด่งดังมากในช่วงที่ดูแลการฟื้นฟูสถาบันการเงินยุควิกฤตเศรษฐกิจ
  • ดร. เกียรติพงศ์ อริยปรัชญา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน นักเศรษฐศาสตร์เลือดใหม่ของแบงค์ชาติ จบปริญญาเอกเศรษฐศาสตร์
  • สงกรานต์ กระจ่างเนตร จบปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ
  • คุณหญิง กนิษฐา วิเชียรเจริญ เป็นผู้ก่อตั้งวิทยาลัยแม่ชี ร่วมก่อตั้งยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ และได้รับรางวัลสตรีดีเด่น 1 ใน 10 คนของโลกในโอกาสวันสตรีสากลฝรั่งเศส ได้รับรางวัล Sacred Souls Award ( 1 ใน 5 คน ) จากสหรัฐอเมริกา และได้รับรางวัลดีเด่นในด้านพุทธศาสนาประจำปี 2545


มหาวิทยาลัยโคลัมเบียในโลกบันเทิง

  • ในปี 2002 ไอ้แมงมุม (ภาพยนตร์) เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรอเมริกันในปี 2002 กำกับโดย แซม เรมี แสดงนำโดย โทบีย์ แม็กไกวร์, เคิร์สเตน ดันสต์ และ วิลเลม เดโฟ

ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ เป็นนักเรียนมัธยมปลายที่โดนแมงมุมกัดในห้องทดลอง ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และต่อมาเป็นฉากที่เขาเข้าเรียนในชั้นเรียนที่โคลัมเบีย โดยภาพยนตร์ก็ได้ออกฉายเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 2002 โดยโคลัมเบียพิกเจอร์ส ภาพยนตร์ได้เสียงตอบรับด้านคำวิจารณ์ที่ดี และยังทำสถิติบ็อกซ์ออฟฟิส โดยเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดทั่วโลกในปี 2002 ทำรายได้ 822 ล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก ไอ้แมงมุม ถือเป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากการ์ตูนที่ประสบความสำเร็จที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก The Dark Knight และยังติดอันดับ 18 ของหนังที่ประสบความสำเร็จที่สุดตลอดกาล จากความสำเร็จทำให้มีภาคต่อในไอ้แมงมุม2 และไอ้แมงมุม3

ตัวอย่างรายชื่อภาพยนตร์ของอเมริกาที่ถ่ายทำภายในมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย

  • Enchanted
  • Ghostbusters
  • Ghostbusters II
  • Hitch
  • Malcolm X
  • Mona Lisa Smile
  • The Nanny Diaries
  • New York Minute
  • How to Lose a Guy in 10 Days
  • Premium Rush
  • The Princess Diaries
  • The Pride of the Yankees
  • The Producers: The Movie Musical
  • P.S.
  • The Sisterhood of the Traveling Pants
  • Spider-Man
  • Spider-Man 2
  • Kills Your Darling

รายชื่อละครที่ถ่ายทำภายในมหาวิทยาลัยหรือตัวละคร

  • Gossip Girl - ในภาคที่3 แบลร์ วอลดอร์ และเซเรน่า แวนเดอร์ วูดเซน ได้ลงทะเบียนเรียนที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย
  • How I Met Your Mother - มาร์แชลล์ อีริกสัน เป็นนักศึกษากฎหมายที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เท็ด มอสบี้ กลายเป็นอาจารย์ของสถาปัตยกรรมในตอนท้ายของภาคที่4
  • Law & Order - อัยการ เจมี่ รอสส์ เข้าเรียนสาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย
  • Lost - แมทธิว ฟ็อกซ์ และดร. แจ็ค Shephard ของเขา เป็นศิษย์เก่าโคลัมเบีย
  • Secret Garden - คิม จู วอน จบการศึกษาจากโคลัมเบีย
  • What I Like About You- วาเลอรี ไทเลอร์ เป็น ศิษย์เก่า ของ โคลัมเบียและ น้องสาวของเธอ ฮอลลี่ ได้สมัครเข้าเรียนที่โคลัมเบียเช่นเดียวกัน
  • Will & Grace - วิลล์ ทรูแมน และเกรซ แอดเลอร์ ได้พบกันที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย
Giuseppe Zanotti Luxury Sneakers

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

  • เว็บไซต์มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย
  • สมาคมนักเรียนไทยมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย



Text submitted to CC-BY-SA license. Source: มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย by Wikipedia (Historical)


Langue des articles



Quelques articles à proximité

Non trouvé