Aller au contenu principal

วุฒิสภาฝรั่งเศส


วุฒิสภาฝรั่งเศส


วุฒิสภาฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส: Sénat français) เป็นสภาสูงในรัฐสภาฝรั่งเศส มีประธานวุฒิสภา (président) เป็นผู้ดำเนินการประชุม

วุฒสิภามีความสำคัญน้อยกว่าสภาผู้แทนราษฎร เช่นเดียวกับการอภิปรายในวุฒิสภาที่มีความตึงเครียดน้อยกว่า ฉะนั้น วุฒิสภาจึงได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนน้อย

องค์ประกอบและการเลือกตั้ง

ก่อนเดือนกันยายน ค.ศ. 2004 สมาชิกวุฒิสภาฝรั่งเศสประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 321 คน โดยดำรงตำแหน่งวาระละ 9 ปี ซึ่งต่อมาได้ถูกปรับลดเหลือเพียง 6 ปี ในขณะที่จำนวนสมาชิกวุฒิสภาได้เพิ่มขึ้นทีละเล็กน้อยจนถึง 348 คนในปีค.ศ. 2011 เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนประชากร ในอดีตการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาจะมีขึ้นทุก ๆ 3 ปีโดยเลือกตั้งทีละหนึ่งในสามของสมาชิกทั้งหมด ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็นครึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมดในทุก ๆ 3 ปี

การได้มาของสมาชิกวุฒิสภาจะผ่านการเลือกตั้งทางอ้อม โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (ฝรั่งเศส: grands électeurs จำนวนประมาณ 150,000 คน ซึ่งเป็นข้าราชการจากหน่วยงานปกครองต่าง ๆ ได้แก่ สมาชิกสภาภาค, สมาชิกสภาจังหวัด นายกเทศมนตรี สมาชิกเทศบาลในเมืองขนาดใหญ่ รวมทั้งสภาผู้แทนราษฎร อย่างไรก็ตาม 90% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นผู้แทนที่เลือกโดยสมาชิกสภาที่ปรึกษาต่าง ๆ ซึ่งเป็นการทำให้วุฒิสภานั้นมักจะออกเสียงเข้าข้างบริเวณที่ห่างไกลความเจริญ

ในขณะที่พรรคการเมืองที่มีเสียงนำในสภาผู้แทนราษฎรมักจะเปลี่ยนพรรคได้อยู่เสมอ แต่วุฒิสภามักจะไม่ค่อยพบการเปลี่ยนแปลงมากนักนับตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 5 ซึ่งมักจะนำโดยสมาชิกพรรคสังคมนิยม จนกระทั่งเมื่อการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาครั้งล่าสุดในปีค.ศ. 2009 ถึงแม้ว่าพรรคฝ่ายซ้ายอย่างพรรคสังคมนิยมซึ่งเคยเป็นเสียงข้างมากมาตลอดจากการชนะการเลือกตั้งของภาคต่าง ๆ ในฝรั่งเศส (ยกเว้นเพียงสองภาค) รวมทั้งเมืองใหญ่และเล็กส่วนใหญ่ซึ่งถือเป็นเสียงมากกว่า 50% ของประชากรทั้งหมด ยังไม่สามารถได้เสียงข้างมากในครั้งนี้ นอกจากนี้วุฒิสภายังถูกครหาว่าเป็นสถานที่ลี้ภัยของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งสอบตกจากการเลือกตั้งทั่วไป

ชาวฝรั่งเศสที่พักอาศัยอยู่นอกประเทศหรือเขตการปกครองของประเทศฝรั่งเศสมีผู้แทนในวุฒิสภาจำนวน 12 คน

ที่นั่งในสภาถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาตั้งแต่การประชุมสภาครั้งแรกในสมัยการปฏิวัติฝรั่งเศส ซึ่งสมาชิกพรรคฝ่ายซ้ายจะนั่งทางซีกซ้ายของประธานวุฒิสภา และสมาชิกพรรคฝ่ายขวาจะนั่งอยู่ทางซีกขวา

ประธานวุฒิสภา

ตำแหน่งประธานวุฒิสภานั้นมาจากการเลือกตั้งของสมาชิกวุฒิสภา โดยภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 5 แล้ว ตามตำแหน่งประธานวุฒิสภา จะเป็นบุคคลถัดมาในการสืบตำแหน่ง "รักษาการประธานาธิบดี" ในกรณีที่ประธานาธิบดีในขณะนั้นถึงแห่อสัญกรรม ลาออก หรือถูกถอดถอนจากตำแหน่ง (เฉพาะกรณีปัญหาสุขภาพ) จนกว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่เสร็จสิ้นลง โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแล้วสองครั้งกับ อาแล็ง ปอแอร์ (Alain Poher) หลังจากการลาออกของประธานาธิบดีชาร์ล เดอ โกล (Charles de Gaulle) และอีกครั้งหนึ่งภายหลังจากการถึงแก่อสัญกรรมของประธานาธิบดีฌอร์ฌ ปงปีดู (Georges Pompidou)

ประธานวุฒิสภาคนปัจจุบัน ได้แก่ ฌ็อง-ปีแยร์ แบล (Jean-Pierre Bel)

อำนาจตามรัฐธรรมนูญ

ภายใต้รัฐธรรมนูญ วุฒิสภานั้นเกือบจะมีอำนาจใกล้เคียงกับสภาผู้แทนราษฎร กระบวนการร่างกฎหมาย เริ่มต้นจากพิจารณาโดยคณะรัฐมนตรี (เรียกว่า projets de loi) หรือโดยสมาชิกรัฐสภา (เรียกว่า propositions de loi) เพื่อตรากฎหมาย การร่างกฎหมายก็ต้องผ่านการพิจารณาจากทั้งสองสภาเพื่อให้ทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาได้พิจารณาร่างกฎหมายที่มีเนื้อหาเดียวกัน หากทั้ง 2 สภามีความเห็นตรงกันก็ถือว่าร่างกฎหมายนั้นได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา โดยขั้นตอนนี้จะกินเวลานานกว่าทั้งสองสภาจะบรรลุข้อยุติในร่างกฎหมายนั้น ๆ แต่ในกรณีที่ทั้ง 2 สภามีความเห็นไม่ตรงกัน ร่างกฎหมายฉบับนั้นก็จะถูกส่งกลับไปกลับมาระหว่าง 2 สภา (navette) ซึ่งนายกรัฐมนตรีสามารถขอให้มีการตั้ง "คณะกรรมาธิการ" (commission mixte paritaire) ประกอบด้วยสมาชิกได้แก่ คณะกรรมาธิการร่วม ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกวุฒิสภา 7 คนและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 7 คน ทำหน้าที่พิจารณาร่างกฎหมายเพื่อให้ได้ข้อยุติ แต่หากคณะกรรมาธิการร่วมกันไม่สามารถตกลงกันได้อีก ร่างกฎหมายนั้นจะถูกส่งไปให้ทั้งสองสภาพิจารณาอีกครั้ง และหลังจากนั้นสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็นส่วนข้างมากฝั่งรัฐบาล ซึ่งกรณีนั้นไม่เกิดขึ้นบ่อย โดยปกติแล้วทั้งสองสภานั้นจะสามารถหาข้อยุติได้ในที่สุด หรือมิฉะนั้นคณะรัฐมนตรีก็จะถอดเรื่องออกจากการพิจารณา

อย่างไรก็ตาม อำนาจในการตรากฎหมายนั้นจึงเสมือนตกอยู่ในมือของสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคณะรัฐมนตรีนั้นมาจากพรรคเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร นอกจากนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยังสามารถเสนอญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี (motion de censure) ได้ แต่อำนาจที่จะผ่านการลงมติไม่ไว้วางใจนั้นค่อนข้างจำกัด โดยเฉพาะในกรณีรัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 4 นั้น คณะรัฐมนตรีที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งนั้นถูกสงวนสิทธิ์การถูกลงมติไม่ไว้วางใจ นอกจากนี้ สมาชิกรัฐสภาจะสามารถยื่นมติไม่ไว้วางใจได้ก็ต่อเมื่อมีสมาชิกอย่างน้อยจำนวนร้อยละสิบของสมาชิกทั้งหมดลงชื่อร่วมกัน หากการลงมติไม่ไว้วางใจครั้งนั้นไม่ผ่านการรับรองจากเสียงส่วนใหญ่แล้ว สมาชิกที่ร่วมลงชื่อนั้นจะไม่สามารถยื่นมติไม่ไว้วางใจได้อีกจนกระทั่งปิดสมัยประชุม หากการลงมตินั้นได้รับการสนับสนุน การจะลงมติไม่ไว้วางใจผ่านได้นั้นต้องได้เสียงส่วนใหญ่เกินกึ่งหนึ่งของสภา มิใช่เพียงเสียงข้างมากดั่งกรณีการออกเสียงรับรองทั่วไป โดยทั่วไปแล้วหากสภาผู้แทนราษฎรกับวุฒิสภานั้นมีเสียงส่วนมากคนละพรรคกัน สภาผู้แทนราษฎรมักจะมีอำนาจเหนือกว่า และการขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างสองสภานั้นยังไม่เคยพบมาก่อนในรัฐสภาฝรั่งเศส

วุฒิสภายังมีหน้าท่สอดส่องดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีโดยจัดพิมพ์เป็นรายงานต่าง ๆ ประจำในแต่ละปี

ดูเพิ่ม

  • รัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส
  • การเมืองประเทศฝรั่งเศส
  • ระบบการปกครองของประเทศฝรั่งเศส
  • ประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

  • เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ (ภาษาฝรั่งเศส) ของวุฒิสภาฝรั่งเศส
  • French Senate ที่ Google Cultural Institute
  • ยลปิยา เทศถมทรัพย์ (มกราคม 2004), รัฐสภาสาธารณรัฐฝรั่งเศส, กรุงเทพฯ: สำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร หน้า 29–43
  • Hans J. Tümmer (2006), "eine Einführung", ใน C. H. Beck (บ.ก.), Das politische System Frankreichs (ภาษาเยอรมัน), München, ISBN 3-406-52839-2



Text submitted to CC-BY-SA license. Source: วุฒิสภาฝรั่งเศส by Wikipedia (Historical)


Langue des articles



PEUGEOT 205

Quelques articles à proximité